โดย น.สพ. คมกฤช ลออธนกุล สัตวแพทย์ประจำคลินิกประดิพัทธ์สัตวแพทย์
เมื่อสัตว์เลี้ยงมีอายุมากขึ้น มักจะเกิดมีเซลล์ผิดปกติ เจริญเติบโตในร่างกายของสัตว์เลี้ยง ซึ่งเหล่านี้มีโอกาสเป็นได้ทั้งเนื้องอก หรือเกิดขึ้นรุนแรงจนเป็นเนื้อมะเร็งได้ครับ
ความแตกต่างระหว่างเนื้องอก กับเนื้อมะเร็ง
มะเร็ง หรือ มะเร็งสุนัข (cancer หรือ malignant tumor) เป็นคำศัพท์ที่ใช้อธิบายโรคที่เกิดขึ้นจากเนื้องอก (tumor หรือ neoplasm) ซึ่งเป็นกลุ่มเซลล์ที่ผิดปกติที่เจริญเติบโตอย่างต่อเนื่องในร่างกายโดยไม่หยุด ทำให้เกิดเป็นก้อนเนื้อขึ้นตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย และมีแนวโน้มลุกล้ำอวัยวะข้างเคียง แพร่กระจายไปยังอวัยวะอื่น ๆ ระบบเลือดและระบบน้ำเหลือง
ส่วนเนื้องอกที่ไม่ได้มีการแพร่กระจายไปอวัยวะอื่น และไม่ได้มีการลุกล้ำไปยังอวัยวะข้างเคียง ภาษาอังกฤษเรียกว่า benign tumor
5 ชนิดเนื้องอก ที่พบได้บ่อยในสุนัข
1.เนื้องอกก้อนไขมัน (Lipoma)
เป็นเนื้องอกชนิดที่ไม่ร้ายแรงและพบได้ตามปกติในสุนัข วัยกลางสุนัขจนถึงวัยชรา พบในเพศเมียมากกว่าเพศผู้และพบในสุนัขอ้วนมากกว่าสุนัขที่มีน้ำหนักตัวปกติ สามารถพบได้ในทุกพันธุ์ มีรายงานว่าพบในพันธุ์ที่อุบัติการของโรคสูง ได้แก่ Labrador Retrievers, Doberman pinschers, miniature schnauzers, Cocker Spaniels dachshunds, Weimaraners ตามปกติจะพบเนื้องอกก้อนไขมันในชั้นใต้ผิวหนังลักษณะเป็นก้อนกลมหรือรีที่นุ่ม โดยส่วนใหญ่จะพบเป็นก้อนเดี่ยวที่ขาและใต้รักแร้ เนื่องจากเนื้องอกชนิดนี้มักจะโตช้ามากและไม่ลุกลามไปอวัยวะอื่นทำให้ไม่มีความจำเป็นจะต้องทำการผ่าตัดรักษายกเว้นในกรณีที่เนื้องอกเข้าไปอยู่ในบริเวณที่ทำให้สุนัขเดินเหินได้ลำบากเช่น ซอกรักแร้ ขาหนีบ
2.เนื้องอกที่อวัยวะเพศ (Transmissible venereal tumor : TVT)
อีกชื่อคือ venereal granuloma หรือ VG ในเมืองไทยเรียกกันง่ายๆ ว่า ทีวีที หรือ วีจี พบมากในกลุ่มสุนัขจรจัด ซึ่งจะเห็นสุนัขป่วยลักษณ์นี้ได้บ่อยตามเพจระดมทุนต่างๆ เนื้องอกชนิดนี้ติดต่อด้วยการผสมพันธุ์และการเลียบริเวณอวัยวะเพศของสุนัข ลักษณะที่พบคือเนื้องอกสีขาวอมชมพูคล้ายกับดอกกะหล่ำที่บริเวณอวัยวะเพศทั้งเพศผู้และเพศเมีย บางครั้งมีเลือดออก การเลียอวัยวะเพศทำให้เกิดการติดเนื้องอกเข้าไปที่บริเวณใบหน้า โพรงจมูก ปาก
การวินิจฉัยสามารถทำได้โดยง่ายโดยการตรวจเซลล์หรือตรวจชิ้นเนื้อ การรักษาหลักคือใช้วิธีการทำเคมีบำบัดทุกอาทิตย์ต่อเนื่องกัน 6-8 อาทิตย์ ในกรณีที่มีเนื้องอกขนาดใหญ่มากอาจจะทำร่วมกับการผ่าตัดด้วยก็ได้ การพยากรณ์โรคดี นั่นคือมีโอกาสประสบความสำเร็จในการรักษาสูงมาก ยกเว้นตัวที่มีการลามไปบริเวณใบหน้า โพรงจมูกและต่อมน้ำเหลือง ซึ่งอาจจะต้องทำการฉายแสงเพื่อทำการรักษา
3.เนื้องอกเต้านม (mammary gland tumor)
ถือว่าเป็นเนื้องอกชนิดที่พบบ่อยมากที่สุดชนิดหนึ่งในประเทศไทยโดยเฉพาะทางเพจโดยระดมทุนเพื่อช่วยเหลือหมาจรจัด 50% ของเนื้องอกชนิดนี้จะเป็นเนื้อร้ายหรือมะเร็ง อีก 50% ที่เหลือจะเป็นเพียงเนื้องอกธรรมดา ในกรณีที่เป็นมะเร็งมักจะมีการแพร่กระจายไปยังอวัยวะอื่น เช่น ปอด ระบบประสาท เป็นต้น เนื้องอกชนิดนี้พบมากในสุนัขเพศเมียที่ยังไม่ได้ทำหมัน การรักษาสามารถทำได้ด้วยการผ่าตัดก้อนเนื้องอก ซึ่งอาจทำร่วมกับเคมีบำบัด หรือฉายแสงได้ การพยากรณ์โรคถือว่าดีมีโอกาสหายโดยเฉพาะเนื้องอกที่ไม่เป็นมะเร็ง หรือในกรณีที่ผลเนื้องอกที่ได้เป็นมะเร็งแต่มีขนาดเล็กกว่า 5 เซนติเมตร ถ้าสามารถตัดออกได้หมด การพยากรณ์โรคก็ถือว่าดี
เจ้าของสุนัขสามารถลดความเสี่ยงของการเป็นเนื้องอกชนิดนี้ได้โดยการทำหมันสุนัขเพศเมีย โดยเฉพาะการทำหมันก่อนการเป็นสัตว์หนแรก โอกาสเกิดเนื้องอกชนิดนี้จะมีเพียง 0.5% ถ้าไม่ได้ทำหมันสุนัขก่อนการเป็นสัตว์ครั้งแรก คุณหมอก็ยังแนะนำให้ทำหมันช้าที่สุดคือหลังการเป็นสัตว์ครั้งที่ 2 แต่ก่อนอายุ 2.5 ปี โดยการทำหมัน หลังการเป็นสัตว์ครั้งที่ 2 นั้นมีโอกาสเกิดโรคเพียง 26% เเต่ถ้าทำหมันหลัง 2.5 ปี จะไม่มีผลการลดอุบัติการณ์การเกิดโรคเลย
4.มะเร็งของเซลล์ผนังหลอดเลือด (Hemangiosarcoma)
(อ่านว่า ฮีแมงจิโอซาร์โคมา) โรคนี้เป็นมะเร็งของเซลล์ผนังหลอดเลือด ซึ่งสามารถจะเกิดได้ที่บริเวณม้าม ตับ หัวใจและผิวหนัง สำหรับมะเร็งที่พบบ่อยในม้ามและตับนั้นมักจะเจอในพันธุ์ German shepherds, Boxers, Great Danes, English Setters, Golden Retrievers, Pointers สุนัขพันธุ์ไทยและพันธุ์บางแก้วก็สามารถพบมะเร็งชนิดนี้ได้ อาการที่มักจะพบได้แก่ เหงือกซีด หัวใจเต้นเร็ว ช่องท้องด้านหน้าขยายขนาด คลำพบของเหลวภายในช่องท้องซึ่งเกิดจากการที่ก้อนมะเร็งเเตกและเลือดไหลในช่องท้องซึ่งอาจทำให้เสียชีวิตได้อย่างกระทันหัน
การวินิจฉัยสามารถทำได้ด้วยการเอกซเรย์ อัลตราซาวด์ช่องท้อง เจาะดูดเอาของเหลวออกมาตรวจ CT-scan และการวินิจฉัยขั้นสุดท้ายสามารถทำได้โดยการผ่าตัดเข้าไปตัดก้อนเนื้อที่เป็นมะเร็งออก การตรวจพบก้อนที่ม้ามซึ่งสงสัยว่าเป็นมะเร็งชนิดนี้ถือว่าเป็นภาวะฉุกเฉิน คุณหมอจะแนะนำให้ทำการเข้ารับการผ่าตัดทันทีเพราะมีความเสี่ยงที่มะเร็งจะแตกแล้วตกเลือดในช่องท้องจนเสียชีวิตได้ การพยากรณ์โรคของมะเร็งชนิดนี้ไม่ดี ในกรณีที่ทำการผ่าตัดอย่างเดียว โอกาสรอดชีวิตหลังจะผ่าตับโดยเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 1.5 ถึง 3 เดือน และมีเพียง 10% เท่านั้นที่จะอยู่รอดจนถึง 1 ปีหลังจากผ่าตัด ในกรณีที่ทางการผ่าตัดร่วมกับเคมีบำบัดโอกาสรอดชีวิตหลังผ่าตัดมีสูงถึง 3 ถึง 6เดือน
5.มะเร็งกระดูก (Osteosarcoma)
เป็นเนื้อร้ายที่พบมากโดยเฉพาะสุนัขพันธุ์ใหญ่และพันธุ์ยักษ์ เช่น Boxer, Doberman pinchers, Golden Retrievers, German shepherd, Great Danes, Great Pyrenees Greyhounds, Irish settlers, Irish wolfhounds, Labrador retrievers, Rottweiler, Saint Bernards Weimeraners มะเร็งชนิดนี้มักจะพบที่กระดูกขาทั้งหน้าและหลังโดยเฉพาะกระดูกที่เป็น long bones หรือกระดูกท่อนยาวเทียบได้กับแขนและขาในคน อาการที่พบคือการบวมบริเวณกระดูกขา ดังนั้นก้อนบวมนี้จะแข็งเหมือนกับกระดูกหรือหิน ไม่ได้เป็นก้อนบวมที่มีความนิ่ม สุนัขจะมีอาการเจ็บขาและกะเพลก มะเร็งชนิดนี้มักจะมีการกระจายตัวไปที่ต่อมน้ำเหลืองและปอด การวินิจฉัยสามารถทำได้โดยการเอกซเรย์ที่บริเวณขา ช่องอกร่วมกับการตรวจเซลล์
การรักษาสามารถใช้หลายวิธีผสมผสานกันโดยวิธีหลักคือการตัดกระดูกที่มีมะเร็งออกไป นั่นก็คือการตัดขานั่นเอง สัตวแพทย์จะทำการตัดขาที่มีมะเร็งออกร่วมกับการใช้เคมีบำบัดหรือการใช้แสงควบคู่ไปด้วยเพื่อลดการแพร่กระจายของมะเร็ง การพยากรณ์โรคไม่ดีเท่าไหร่เนื่องจากแม้ทำการรักษาเต็มที่แล้วมีโอกาสเสียชีวิตสูง
จากบทความนี้เราจะเห็นว่าเนื้องอกหรือมะเร็งหลายชนิด จะต้องใช้มากกว่าหนึ่งวิธีในการรักษาเพื่อให้ได้ผลการรักษาที่ดีที่สุด หมอเชื่อว่าหมอทุกคนต้องการสู้เพื่อสัตว์เลี้ยงทุกตัวที่ดูแลอยู่ น้องหมาทุกตัวก็สู้เพื่อชีวิตตัวเองเต็มที่ เจ้าของละครับ พร้อมที่จะสู้กับมะเร็งเหล่านี้ไปพร้อมๆกันไหม ถ้าใครที่อ่านบทความนี้มีน้องหมาที่ป่วยด้วยโรคเนื้องอกต่างๆ หมอก็ขอให้น้องหายป่วยไวๆ นะครับ